ปัญหาใหญ่ของจีน

จีนมีหนี้มากมายที่ไม่ได้อยู่ในระบบธนาคารพาณิชย์ และไม่ได้เปิดเผย แต่มีคนประมาณจาก return on credit แล้ว เชื่อว่า น่าจะมี NPL นอกระบบอยู่มากถึง 22% ซึ่งเป็นระดับที่สถาบันการเงินอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่เพิ่มทุนมหาศาล ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง ไม่รู้เหมือนกันว่า ทางการจีนจะช่วยอุ้มสถาบันการเงินต่อไปได้อีกนานแค่ไหน

(ที่มา : China’s debt avalanche is the biggest worry )

ตอนนี้จีนมีหนี้รวมทั้งหมดมากถึง 236% ของ GDP ส่วนใหญ่เป็นหนี้บริษัท และหนี้ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ถ้าเศรษฐกิจจีนโตน้อยลงก็อาจส่งผลกระทบได้

7 Replies to “ปัญหาใหญ่ของจีน”

  1. ถ้ามีระเบิดเวลาอยู่อย่างนี้ พี่โจ๊กมองว่าเรายังควรลงทุนหุ้นหรือว่ากลับมาถือเงินสดดีครับ

    1. ปัญหาของการขายหนีวิกฤตคือ บางทีเรารู้ว่ามันจะเกิด แต่ว่าเราไม่รู้ว่าเมื่อไร ตอนไหน บางทีมันอาจถูกลากต่อไปเป็นสิบปี ค่อยระเบิดก็ได้ ถ้าเราขายหนี ก็จะพลาดการลงทุนไปนานมาก

      ถ้าเราไม่สบายใจ ก็ควรจะลดพอร์ตลงบ้างจนถึงระดับที่เรานอนหลับสบาย มากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่คน

  2. เคยได้ยินว่าจีนมีนโยบายวางเงินดาว์นซื้อบ้าน ถึง 50% หมายถึงว่าหนี้ส่วนที่เหลือคือคนยอมทิ้งหรือครับ ถึงว่ามีหนี้เสียเยอะ หรือว่านโยบายนี้ไม่มีจริง

  3. คนจีนส่วนใหญ่ซื้อบ้านจะดาวน์ 50% จริงครับ อันนี้ผมได้ยินมาแบบนี้เหมือนกัน ถ้าที่ผมได้ยินมาไม่ผิดนะครับ

    ปัญหาอสังหาของจีน อาจไม่ใช่การที่มีคนทิ้งดาวน์ แต่เป็นเรื่องของการปล่อยกู้ให้บริษัทที่ทำโครงการแล้ว โครงการขายไม่ได้ เพราะไม่ตรงกับความต้องการ หรือบ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านระดับสูง มีแต่คนระดับบนที่ซื้อไว้เก็งกำไร แต่คนธรรมดาเข้าถึงไม่ได้

    เคยได้ยินบ้านที่เหลือขาย มีมากขนาดที่ว่า ไม่สร้างใหม่เลย รอขายอีก 10 ปี ถึงจะหมด

    1. ช่วงหลังๆมานี้ พี่โจ๊กได้ Buy and Hold แบบถือไว้นานๆหลายๆปีมั่งรึป่าวครับ ภายใต้ Set ที่ดูจะเกิน fair value เกือบตลอดเวลาในช่วงปีหลังๆมานี้ / ขอบคุณมากครับ ^^

      1. ผมไม่นิยมถือหุ้นตัวไหนถาวร เพราะส่วนตัวเชื่อว่า ทุกธุรกิจมียุคทองของมัน มีธุรกิจน้อยมากๆ ที่จะดีตลอดไป ส่วนใหญ่แล้วผมตั้งใจจะถือหุ้นตัวละ 3 ปี ถ้าถือนานกว่านั้นก็คือ reevaluate แล้วพบว่ายังดีอยู่ ก็ถือต่อ แต่ถ้าไม่ดีแล้ว ก็ไม่ถือครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *