ตลาดกระทิงในเวลานี้ให้ได้ข้อคิดอะไรได้หลายอย่าง…
ขณะนี้ มีนักลงทุนจำนวนมากมาบอกผมว่า ตอนนี้พวกเขามีเงินเหลืออยู่มากเกินไป และต้องการนำมาซื้อเก็บเป็นหุ้นให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่แตกต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง เมื่อปีที่แล้วตอนที่หุ้นถูกกว่านี้มาก มีแต่คนมาบอกว่าอยากขายออกบ้าง เพราะเห็นว่าหุ้นขึ้นมาเยอะแล้ว กลัวมันจะลง
หุ้นเป็นสินค้าที่ยิ่งแพงก็ยิ่งมีคนอยากซื้อ ถ้าเราได้ยินวลีนี้ในภาวะตลาดแบบปกติ เราคงไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ หรือไม่เราก็อาจคิดว่า บางคนอาจเป็นอย่างนั้น แต่สำหรับตัวฉัน คงไม่เป็นแบบนั้นเด็ดขาด
แต่เมื่อตลาดหุ้นอยู่ในภาวะกระทิงและเราได้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์นี้ เราจะได้เห็นชัดว่าความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นได้ แม้แต่ตัวเราเองก็ยังรู้สึกไปด้วย นี่แหละมั้งที่เค้าบอกว่า บางอย่างในตลาดหุ้นก็สอนกันไม่ได้ ต้องรอเก็บประสบการณ์เอาเองเท่านั้น
ปรากฏการณ์นี้ยังทำให้มองภาพออกเลยว่า ตลาดหุ้นทำงานอย่างไร ในช่วงที่ดัชนีหุ้นตกต่ำสุดขีดนั้น เงินส่วนใหญ่ของทุกคนจะฝากอยู่ในแบงก์อย่างปลอดภัย ยิ่งดัชนีหุ้นไต่ระดับสูงขึ้น เงินของทุกคนที่ฝากอยู่ในแบงก์ก็จะค่อยๆ ผ่องถ่ายออกมาเข้าตลาดหุ้นมากขึ้น เม็ดเงินที่เข้ามามากขึ้นนี่แหละที่ทำให้ดัชนีสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย และยิ่งดัชนีสูงขึ้นไปเท่าไร เงินของทุกคนก็จะไปพักอยู่ในตลาดหุ้นมากขึ้น (ทั้งที่ควรจะน้อยลง) จนถึงจุดสุดท้ายก่อนที่ฟองสบู่จะแตกซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเมื่อไร เงินส่วนใหญ่ของทุกคนจะอยู่ในตลาดหุ้นหมดแล้ว แทบไม่มีใครเหลือเงินสดเลย
แม้แต่คนที่ใช้กลยุทธ์ DCA หลายคนก็หนีไม่พ้น ตอนแรกอาจเลือกใช้ DCA เพราะ ไม่รู้ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง แต่พอใช้ DCA แล้วกลายเป็นขาขึ้นตลอด เราจะคิดว่า “รู้งี้ไม่น่าใช้ DCA เลย น่าจะลงให้หมดตั้งแต่ต้น” ว่าแล้วเราก็เพิ่มน้ำหนักการลงทุนต่อเดือนให้มากขึ้น อีกเพื่อชดเชยกำไรที่ขาดหายไป ตอนแรกไม่รู้ว่าหุ้นจะขึ้นหรือจะลง แต่พอเห็นหุ้นขึ้นกลับเปลี่ยนเป็นเก็งว่าหุ้นจะขึ้นต่อไปอีกแน่นอน สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นเหมือนทุกคนอยู่ดี คือ ซื้อมากๆ ตอนที่แพง คนที่เป็นแบบนี้หากตอนแรกพวกเขาเริ่มต้นด้วยการซื้อตูมเดียว แล้วปรากฎว่าหลังจากนั้นแทนที่หุ้นจะขึ้นกลับลง พวกเขาจะคิดกลับกันว่า “รู้งี้ใช้ DCA ตั้งแต่แรกดีกว่า” หลักการของพวกเขาเพียงแต่เปลี่ยนกลับไปกลับมาตามด้านของเหรียญที่ทอยออกมาในแต่ละครั้งเท่านั้น
ธนชาติงดให้กู้มารจิ้นตั้งแต่ 18 มีค เป็นตันไป
สงสัยว่าคนที่ยืมมาแล้วต้องคืนเลยรึเปล่า
ของBLSก็ไม่ให้ซื้อในมาร์จิ้นแล้วครับ
ส่วนที่ซื้อไปแล้วยังไม่ต้องคืนนะครับเพี่ยงแต่ห้ามซื้อเพิ่มครับ
โอ้ว หยุดปล่อยกันใหญ่เลย แบบนี้หุ้นตกหนักก็ไม่แปลกล่ะ
เหอเหอ 4 วัน 100 กว่าจุด แต่ยังไม่ถึง 10% จาก New High
บางทีคนเราบางคนก็กลัวตัวเลขปกติ มากกว่า % รึเปล่าครับ?
ผมเคยได้อ่านมาว่า ปีเตอร์ลินซ์ ให้โฟกัสที่บริษัท โดยสนใจ Set index น้อยมาก ไม่ทราบว่ามีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างครับ
จะใช้กลยุทธนี้ได้ผลหรือป่าว
ควรเป็นแบบนั้นครับ เพราะขนาดเมื่อวันศุกร์ว่าตกหนักๆ หุ้นธรรมดาบางตัว pe ยัง25-30อยู่เลย…จะแพงไปใหน
ไม่นับหุ้นPE40 up แนวหุ้นเทินอะราว ทั้งนั้นอ่ะ
หากทำแบบนั้นได้ คือดีที่สุดครับ เพียงแต่บางช่วงเวลาที่ตลาดวิ่งจริงๆ เราจะยังมั่นคงกับหลักการได้หรือเปล่า
ไม่ทราบว่ามีใครใช้บริการ iProgramTrade ของ บล บัวหลวง บ้างครับ อยากทราบว่า ทำอะไรได้บ้าง มีข้อที่ชอบหรือไม่ชอบตรงไหนบ้าง ขอบคุณครับ